-

-

วันพุธ

การดุลูกด้วยน้ำเสียงเข้มและหนักแน่น






mom2hero.คุณแม่คนเก่ง
กับ วิธีเลี้ยงลูก "การดุลูกด้วยน้ำเสียงเข้มและหนักแน่น" ส่วนใหญ่มักจะเีคยเห็นคุณแม่คนเก่งและคุณพ่อที่เอ็ดตะโรโวยวายและตะโกนใส่หน้าลูกในยามที่ควบคุมอารมณ์โมโหไม่ได้ และในยามที่ลูกน้อยต่างงอแงเสียเหลือเกินคะ






การดุลูกด้วยน้ำเสียงเข้มและหนักแน่น


แต่ก็มีพ่อแม่ไม่น้อยเช่นกันที่ไม่เคยสักครั้งที่จะุดุด่าลูก หรือตะโกนใส่หน้าลูกด้วยอารมณ์โมโหโทโส การดุหรือเอ็ดลูกที่กำลังแผลงฤทธิ์เต็มที่นั้นสามารถปรามได้ง่ายๆ ด้วยการพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่มีความเข้มและความหนักแน่นในน้ำเสียง


ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกกำลังฉีกกระดาษและโปรยเกลื่อนไปทั้งบ้าน แทนที่เราจะโมโหและตะโกนเอ็ดลูกเพื่อให้ลูกหยุดทำสกปรกเลอะเทอะอย่างนั้นสักที เราอาจจะพูดได้ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่หนักแน่นว่า
"หยุดฉีกกระดาษเล่นเดี๋ยวนี้นะลูก"


คำพูดเพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะปรามให้เด็กหยุดแสดงอาการซุกซนเกินเลยไปได้ ถ้าเพียงแต่เราจะแสดงท่าทีขึงขัง ใช้ความหนักแน่นในน้ำเสียง ไม่ยิ้ม ไม่ทำท่ากราดเกรี้ยวใส่ลูก แต่รักษาท่าทีที่สงบนิ่งและนิ่งมองลูกอย่าตำหนิ ไม่พาดพิง และน้ำเสียงโดยรวมนี้จะทำให้ลูกรู้สึกว่า คุณแม่หรือคุณพ่อกำลังไม่พอใจและตนก็จะหยุดแผลงฤทธิ์ได้ในที่สุด


การดุลูกด้วยความหนักแน่นและ่ท่าทีอันจริงจังนี้ต่างหาก ที่จะทำให้ลูกยำเกรงพ่อแม่ และรู้สึกว่าควรเคารพกฎระเบียบในบ้าน แต่ถ้าใช้วิธีการเอ็ดตะโรโวยวายและติงลูกอย่างเดียวลูกจะไม่้รู้สึกว่า ระเบียบวินัยนั้นน่าเคารพและควรกระทำตามเท่าใดนัก


ถึงจะหยุดทำ แต่จะไม่รู้สึกว่ากระทำผิดและจะไม่รู้สึกยำเกรงพ่อแม่อีกด้วย แต่การแสดงท่าทีอันหนักแน่นในการดุลูกนี้ต้องทำสม่ำเสมอและจริงจัง มิใช่ว่าบางครั้งเอ็ดลูกด้วยวิธีหนึ่ง ต่อมาก็ตะโกนใส่ลูกหรือตีลูกด้วยอารมณ์โมโหโทโส การทำสม่ำเสมอของการปฏิบัติตนนั้นน่าที่จะทำให้ลูกอยู่ในระเบียบและยำเกรงเราได้



mom2hero.คุณแม่คนเก่ง กับวิธีเลี้ยงลูก "การดุลูกด้วยน้ำเสียงเข้มและหนักแน่น" จะทำให้ลูกยำเกรงพ่อแม่ และรู้สึกเคารพกฏระเบียบ แต่ถ้าใช้วิธีเอ็ดตะโรโวยวายเป็นวิธีที่ผิดคะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม