-

-

วันพุธ

ฝึกพูด ให้ลูก



mom2hero.คุณแม่คนเก่ง
หากต้องการกระตุ้นพัฒนาการลูก โดยเฉพาะเรื่องภาษานั้น "ฝึกพูด ให้ลูก"เป็นคำสอนแม่นั้น ควรเริ่มต้นตั้งแต่ทราบว่า ตนตั้งครรภ์ตั้งแต่ในช่วงแรก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เรื่องหนึ่งที่เดียวเลยค่ะ




"ฝึกพูด ให้ลูก"

จากการสำรวจพบว่า อายุเฉลี่ยของเด็กที่จะพูดคำแรกถึงค่ำที่สิบนั้น จะอยู่ในช่วง 11 เดือนแรก ซึ่ง 1 ใน 6 ของพ่อแม่ทั้งหมดเผยว่า ลูกของเขามีปัญหาในเรื่องการพูด 4% เผยว่า ลูกของพวกเขาไม่พูดเลย แม้จะอายุเลยมาถึง 3 ขวบ แล้วและเมื่อผลสำรวจทราบถึงปัญหาหนึ่งที่คุณแม่ส่วนใหญ่พบเกี่ยวกับลูกในเรื่องการพูดมากพอสมควร


สิ่งแรกที่คุณแม่ควรตระหนัก
คือ อย่าหวาดกลัวและวิตกกังวลในสิ่งที่พยายามทำให้ลูก และอีกประการหนึ่งคือการพัฒนาการของเด็กแต่ละคนนั้นต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นอย่าเปรียบเทียบระหว่างลูกของเรากับเด็กคนอื่น



กระตุ้นพัฒนาการการพูดของลูก มีวิธีปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้

  • คุยกับลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง นับตั้งแต่วินาทีที่คุณทราบว่า คุณกำลังจะเป็นคุณแม่นั้น นอกเหนือจากการดูแลเอาใจใส่ร่างกายและจิตใจของแม่นั้น ทั้งสองคนควรจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด โดยการพูดคุยกับลูก แม้เขาจะยังอยู่ในท้องก็ตาม

ที่ผ่านมาคุณแม่ส่วนใหญ่เข้าใจผิดมาตลอดว่า ช่วงที่ลูกเป็นทารกนั้นคงไม่สามารถรับรู้ในสิ่งที่เราพูดคุยกับเขาได้ แต่แท้ที่จริงแล้ว
  • ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ฟัง
  • เสียงพ่อแม่คุยกับเขานั้น ลูกที่อยู่ในครรภ์สามารถรับรู้และรู้สึกเสมอ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้นี่เองที่จะเป็นแรงกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อย โดยเราสามารถรับรู้ได้จากการดิ้นของลูกนั่นเอง



สนุกกับการสอน
........ลูกจะสนุกกับการเรียนรู้และสนใจสิ่งรอบข้าง ถ้าคุณแม่สอนลูกด้วยความสนุกในการฝึกพูด ซึ่งต้องทราบก่อนว่า เด็กเล็กนั้นมักชอบเสียงและจังหวะดนตรี ของเล่นที่มีการเล่นเสียงสูงต่ำจะเป็นที่สนใจของพวกเขามาก รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แมว สุนัข นก เป็นต้น
ดังนั้นคุณแม่สามารถให้สิ่งเหล่านี้เป็นอุปกรณ์เสริมในการกระตุ้นพัฒนาการ ของลูกได้เป็นอย่างดี


เรียนรู้ไปด้วยกันกับลูก
........ในแต่ละวัน คุณแม่ควรให้ลูกเรียนรู้ภาษาในชีวิตประจำวันไปด้วยกัน โดยการสอนคำง่ายเช่น ทานข้าว กินน้ำ กินนม อาบน้ำ และชื่อของสิ่งของไม่ว่าจะเป็น รองเท้า เก้าอี้ โต๊ะ เตียง เป็นต้น


ใช้สายตาให้กัน
.......ภาษาที่ดีและได้ผลนั้น คุณแม่คุวรใช้ภาษาทางสายตา เวลาพูดกับลูกด้วย เพราะว่าจะช่วยใ้ห้ลูกเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อสารมากขึ้น


ย้ำทำย้ำพูด
..........การที่คุณแม่พูดคำใดคำหนึ่งบ่อยครั้ง แน่นอนว่า ลูกจะสามารถซึมซับและเรียนคำเหล่านั้นได้แน่นอน แต่น้ำเสียงนั้น ห้ามเลยนะค่ะ อย่าดุดันหรือใส่อารมณ์เพื่อบังคับให้ลูกได้ในทันที มิฉะนั้น นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว อาจจะกระทบจิตใจลูกด้วยค่ะ


เพื่อนกับเสียงทีวี
........ข้อห้ามเด็ดขาดสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กทั้งหลายนั้นคือ ห้ามให้เพื่อน นั่นคือเสียงทีวี อยู่เป็นเำพื่อนลูก เพราะที่ผ่านมา หลายครอบครัวต้องเจอปัญหาคือลูกไม่ยอมพูด เพราะจ้องดูแต่ทีวีค่ะ


เล่นเกมส์กับลุกบ้าง
..........หากลูกอยู่ในวัย 2 ขวบขึ้นไป คุณแม่อาจจะหากิจกรรมหรือว่าเกมส์เล่นกับลูก ซึ่งระยะเวลาที่เล่นด้วยกัน กับลูกนั้น เขาจะเรียนรู้ภาษาจากคุณแม่และเข้าใจภาษานั้นง่ายขึ้นตามลำดับ เช่น เล่น จ๊ะเอ๋ ซ่อนแอบ เป็นต้น


เล่านิทานให้สนุก
........นิทานที่อ่านง่าย และสนุกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับครอบครัวที่กำลังมีลูกวัยซน ก่อนจะซื้อหนังสือนิทาน คุณแม่ต้องคำนึงด้วยนะค่ะ ว่าลูกอายุเท่าไร วัยของเขาสนใจภาพมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ายังเล็กมาก คุณแม่ก็ต้องเน้นเป็นภาพ เน้นสี ไม่ใช่เนื้อหา ซึ่งนิทานนี้เองที่จะกระตุ้นพัฒนาการของเขาเป็นอย่างดี อีกทั้งยังสร้างนิสัยการรักการอ่านให้ลูกอีกด้วย ( เทคนิคการเ่ล่านิทาน คุณแม่ต้องทำเสียงให้ได้จังหวะ ตามเนื้อหาของเรื่องนั้นๆ จะทำให้ลูกสนุกกับการฟังด้วย)


สอนโดยการลงมือทำ
............ศัพท์บางคำ เด็กอาจจะไม่เข้าใจความหมาย หรือสิ่งที่คุณแม่จะพยายามอธิบาย ดังนั้นการสอนพร้อมกับสิ่งที่เขาสามารถสัมผัสได้ เช่น เรื่องกลิ่น เรื่องความรู้สึกร้อน รู้สึกหนาว เย็น รวมไปถึงกิริยาท่าทางต่างๆ คุณแม่ก็สามารถทำให้เขาดูได้เพื่อง่ายต่อความเข้าใจมากขึ้น (เรื่องกลิ่น ก็อาจจะยกตัวอย่าง ดอกไม้ก็ได้ ค่ะ)


พูดสั้นๆๆ กระชับๆๆ
........ โดยธรรมชาติของเด็กที่มีอายุไม่เกิน 3 ขวบ นั้นไม่สามารถพูดได้เป็นประโยคเหมือนผู้ใหญ่ พวกเขาพูดได้เพียงเป็นคำๆ ซึ่งบางทีอาจจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเสียด้วยซ้ำไป อย่าพูดยาวนะค่ะ สั้นๆ แต่มีความหมายค่ะ


ให้โอกาสลูกเสมอ
........หลังจากที่คุณแม่สอนให้ลูกหัดพูด้วยเทคนิคต่างๆ แล้ว ที่สำคัญอีกอย่างต้องให้โอกาสลูกและให้เวลาเขาในการเรียนรู้ด้วย ไม่ใช่สอนเขาเดี๋ยวนั้นแล้วลูกต้องทำได้ พูดได้ทันที แต่กลับต้องค่อยไปค่อยไป เพราะเด็กต้องการเวลาในการปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
...............ดังนั้นเมื่อคุณแม่พูดแล้ว ต้องให้เวลาเขาสักพักในการพูดตามหรือตอบกลับ นะค่ะอย่าเร่งรีบ



เสียสละเวลา.........เพื่อสอนลูก

ห้ามมองข้ามสิ่งสำคัญนี้ไปอีกประการนะค่ะ คือ ทุกครั้งที่พาลูกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกบ้าน ลูกๆ จะตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแปลกใหม่รอบตัว แต่พ่อแม่กลับไม่ใช้โอกาสนั้นสอนเขาว่า มันคืออะไร เรียกว่าอะไร คุณแม่ต้องสอนลูกอธิบายลูกเลยนะคะ ไม่ยากเกินไปหรอกค่ะ เสียสละเวลาเพื่อสอนลูกในสิ่งที่ลูกเห็นนะค่ะ
.................เช่น หากพาลูกไปไหนก็ตาม หยุดเดินหรือชลอความเร็วรถสักนิด เพื่อบอกเขาว่า สิ่งที่เขาสงสัยนั้นคืออะไร เรียกว่าอะไร แต่ที่สุดแล้ว ก่อนที่จะหยุดเดิน หรือหยุดรถก็ควรมองซ้าย มองขวาให้ดีเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย




mom2hero.คุณแม่คนเก่ง
ได้มีคำสอนแม่ "ฝึกพูด ให้ลูก" ไม่ยากเลยใช่ไหมค่ะ เทคนิคที่ได้แนะนำไป คุณแม่ทดลองดูนะค่ะ รับรองได้เลยว่าลูกๆ พูดได้เร็ว และคล่องเลยทีเดียวค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม