mom2hero ขอแนะนำวิธีเลี้ยงลูกและ"ดูแลตัวเองเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์" สำหรับคุณแม่คนเก่งเพื่อความพร้อมในทุกๆด้านค่ะ
ดูแลตัวเองเพื่อลูกน้อย
- การฉายเอกซเรย์บริเวณหน้าท้องควรหลีกเลี่ยงเพราะลูกในท้องไม่ควรได้รับรังสีเอกซเรย์ก่อนอายุ 3 เดือน
- คุณควรวางแผนว่าจะคลอดลูกที่ไหน ควรเป็นแพทย์คนเดียวกันตอนฝากครรภ์
- ส่วนใหญ่หญิงมีครรภ์จะเริ่มรู้สึกแพ้ท้องในระยะ 6-8 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ อาการแพ้ท้องเกี่ยวเนื่องกับจิตใจเป็นอย่างมาก ถ้าอาการแพ้ท้องคลื่นไส้อาเจียนของคุณหนักจนกินอาหารไม่ได้ อาจดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้แทน หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ (แต่ไม่ควรทานยาแก้แพ้ด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาหมอ)
- ถ้าคุณไปหาแพทย์เป็นระยะๆ ก็จะได้รับการตรวจปัสสาวะ ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต เพื่อตรวจดูว่าเป็นโรคไตหรือเป็นโรคครรภ์เป็นพิษหรือไม่ ถ้าเป็นจะได้รับการรักษาได้ทันที
- ในระยะหลังของการตั้งครรภ์ แม่ส่วนใหญ่มักมีอาการบวมที่ข้อเท้า ซึ่งถือว่าปกติ
- ต้องระมัดระวังจะต้องมิให้หกล้ม ไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูง ปีนเก้าอี้หยิบของจากที่สูง ไม่ควรขี่จักรยานยนต์ หรือเดินในที่ทำให้ล้มง่าย ฯลฯ
- เมื่ออาการแพ้ท้องทุเลาลงแล้ว กินอาหารอย่าให้ขาดอาหารจำพวก แคลเซี่ยม เหล็ก ไอโอดีน วิตามิน โปรตีน แคลเซียมจำเป็นสำหรับการสร้างกระดูกและฟันของเด็ก มีมากในน้ำนม ดังนั้นควรดื่มน้ำนมครึ่งลิตรทุกวัน
- สำหรับคนไม่คุ้นกับนมวัว ควรดื่มนมถั่วเหลืองและกินปลาตัวเล็กๆๆที่กินได้ทั้งตัว สำหรับธาตุเหล็ก ได้จากไข่แดง ตับ หอยนางรม ปลา ผักสีเขียวจัด ไอโอดีนได้จากอาหารทะเล ส่วนวิตามิน ก็อาจกินวิตามินรวมสำหรับสตรีมีครรภ์
- ร่างกายของเด็กถูกสร้างด้วยโปรตีน จะมาจากเนื้อสัตว์ เช่น ปลา ไข่ เนื้อ เป็นต้น สำหรับผักสด ผลไม้ ก็ไม่ควรขาดเช่นกัน ควรกินข้าวให้ได้สัดส่วนกับอาหารประเภทอื่น อย่ากินแต่้ข้าวอย่างเดียว เพราะอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล จะทำให้คุณอ้วนเกินความจำเป็น และหลังคลอดจะลดน้ำหนักยาก เมื่อตั้งท้องได้ 8 เดือน ถ้าลูกคุณตัวโตเกินไป แพทย์อาจสั่งให้ลดอาหารลง การที่ตั้งครรภ์และมีไขมันมาก จะเพิ่มภาระการทำงานให้กับหัวใจ ดังนั้นไม่ควรกินของมันๆๆ เช่น มันหมู อาหารทอดน้ำมัน มากเกินไป
- คุณไม่ควรกินอาหารรสจัด หรือชูรสเกินขนาด สำหรับกาแฟนั้น ถ้าเพียงวันละแก้วก็ดื่มได้(แต่ก็ไม่ควรดื่ม) บุหรี่ควรงด แอลกอฮอล์งด
- สำหรับเดินทางไกลไม่ควรทำก่อนระยะครรภ์ 3 เดือน
- แม่บ้านที่ทำงานบ้านอยู่บ้าน ควรทำปกติ และควรเดินเล่นออกกำลังกายทุกวัน แต่ต้องหยุดพักทันทีที่คุณรู้สึกเหนื่อย และไม่ควรเล่นน้ำทะเล และแม่น้ำลำคลองเพราะน้ำบางแห่งสกปรก
- การร่วมเพศกับสามีควรหลีกเลี่ยงระยะแรกของการตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันการแท้งลูก และในระยะ 4 สัปดาห์ก่อนกำหนดคลอด
- ควรถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา คนตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะท้องผูก กินผักผลไม้สด ให้มากๆๆ ดื่มน้ำมากๆๆ หลังตื่นนอนตอนเช้า การใช้ยาถ่ายรุนแรงอาจแท้งได้
- การตั้งครรภ์อาจทำให้ฟันคุณเสื่อมลงได้ ถ้าฟันผุ ก็ควรรีบจัดการให้เรียบร้อยโดยเร็ว ควรฉีดยาป้องกันบาดทะยักก่อนอายุครรภ์ได้ 6 เดือน
- เด็กในท้องจะเติบโตขึ้นทุกวัน ดังนั้นคุณไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่รัดหน้าอก หน้าท้อง ควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย
- ยาบางชนิดมีผลทำให้เด็กในครรภ์กลายเป็นเด็กไม่สมประกอบได้ และแม้อายุเลย 4 เดือนแล้วก็ตาม ถ้าคุณกินยาที่มีส่วนผสมของเตตราซัยคลีน ลูกของคุณจะมีฟันสีเหลือง ถ้าคุณฉีดยาสเตรปโตมัยซิน หรือกาน่ามัยซิน ระหว่างตั้งครรภ์ ลูกอาจหูพิการได้
- ไม่ควรเล่นกับสุนัขหรือแมว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เช่น พยาธิทอกโซปลาสมา (Toxoplasmosis) ซึ่งอาจทำให้ลูกออกมามีความผิดปกติต่างๆๆ เช่นหัวโตหรือหัวเล็ก และควรระวังโรคหัดเยอรมันซึ่งอาจทำให้ลูกคุณพิการได้ ไม่ควรเข้าใก้คนที่เป็นหวัด เพราะหวัดเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อลูก
- เมื่อครบกำหนดคลอดแล้ว ไม่ต้องกังวล การคลอดอาจล่าช้ากว่ากำหนด 2 สัปดาห์นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเกิน 2 สัปดาห์ไปแล้ว เด็กอาจจะเกิดภาวะขาดออกซิเจนได้
mom2hero ได้เสนอแนะก่อนที่จะเป็นคุณแม่คนเก่ง โดย "ดูแลตัวเองเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์" เพื่อเตรียมพร้อมทุกๆๆด้านจะได้มีวิธีเลี้ยงลูกได้ถูกวิธีค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น